เบียร์ เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยม ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ไม่เพียงแค่เป็นเครื่องดื่มที่ดื่มเพื่อผ่อนคลาย แต่ยังเป็นวัฒนธรรมที่มีเรื่องราวประวัติศาสตร์ยาวนาน โดยเฉพาะในประเทศไทยซึ่งมีการผลิตและบริโภคเบียร์มายาวนาน หากคุณต้องการเพิ่มประสบการณ์การดื่มเบียร์ให้น่าจดจำมากขึ้น เรามี 5 วิธีการชิมเบียร์อย่างมืออาชีพที่จะช่วยให้คุณเข้าใจรสชาติและคุณค่าของเบียร์มากยิ่งขึ้น แต่ก่อนจะลงรายละเอียดเกี่ยวกับการชิมเบียร์ เรามาทำความรู้จักกับ ประวัติของเบียร์ไทย กันก่อน
ประวัติของเบียร์ไทย
การเริ่มต้นของเบียร์ในประเทศไทยสามารถย้อนกลับไปในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อมีการนำเข้าเบียร์จากต่างประเทศเข้ามาในประเทศ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ชาวต่างชาตินิยมดื่ม ต่อมาในช่วงปี พ.ศ. 2476 ประเทศไทยเริ่มมีการผลิตเบียร์ในประเทศเป็นครั้งแรกภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลไทย ซึ่งทำให้ประชาชนมีโอกาสได้ลิ้มรสเบียร์ที่ผลิตในท้องถิ่น โดยโรงเบียร์ที่สำคัญที่สุดในยุคนั้นคือบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด ที่ผลิตเบียร์สิงห์ออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2477
ต่อมาเบียร์กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการดื่มในไทย มีการพัฒนาสูตรการผลิตและกระบวนการผลิตที่หลากหลายมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้เบียร์กลายเป็นเครื่องดื่มที่ผู้บริโภคทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่าย จากนั้นในยุคหลัง ปี พ.ศ. 2540 เราเริ่มเห็นการเข้ามาของเบียร์คราฟท์และเบียร์นานาชาติที่หลากหลายยิ่งขึ้นในตลาดไทย ซึ่งนอกจากเบียร์สิงห์และเบียร์ลีโอที่เป็นที่รู้จักแล้ว ยังมีผู้ผลิตรายย่อยอีกมากที่เริ่มผลิตเบียร์คราฟท์เพื่อตอบสนองผู้บริโภคที่มองหาเบียร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ปัจจุบัน พัฒนาการของเบียร์ในไทย นั้นก้าวไปอย่างรวดเร็ว ทั้งในเรื่องของการพัฒนาเทคนิคการผลิตและการสร้างสรรค์รสชาติที่แปลกใหม่ ทำให้เบียร์ไทยสามารถแข่งขันในตลาดระดับโลกได้
5 วิธีการชิมเบียร์อย่างมืออาชีพ
ดูสีก่อนดื่ม
สีของเบียร์สามารถบอกได้ถึงชนิดของเบียร์และกระบวนการหมัก ยิ่งเบียร์มีสีเข้ม มักจะมาจากมอลต์ที่ถูกคั่วในอุณหภูมิสูง ขณะที่เบียร์สีอ่อนอย่าง Lager หรือ Pilsner มักจะมีรสชาติที่เบาและสดชื่น เมื่อคุณชิมเบียร์ ลองสังเกตสีและลองเชื่อมโยงกับรสชาติที่คุณจะได้สัมผัส
ดมกลิ่น
กลิ่นเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่ช่วยให้เรารู้จักเบียร์มากขึ้น กลิ่นหอมของเบียร์มาจากฮ็อป มอลต์ และยีสต์ กลิ่นผลไม้ กลิ่นดอกไม้ หรือกลิ่นคาราเมลที่คุณสัมผัสได้จะช่วยให้คุณทำนายได้ว่าเบียร์นั้นมีรสชาติแบบไหน
ชิมรสชาติแรกสัมผัส
เมื่อเบียร์สัมผัสกับลิ้นเป็นครั้งแรก รสชาติที่คุณจะได้พบคือรสชาติพื้นฐาน ซึ่งมีทั้งรสหวานจากมอลต์ รสขมจากฮ็อป หรือรสเปรี้ยวที่มาจากยีสต์ การสังเกตรสชาติแรกสัมผัสเป็นสิ่งสำคัญเพราะมันเป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยให้คุณทำความเข้าใจเบียร์ชนิดนั้นได้ดีขึ้น
สัมผัสปาก (Mouthfeel)
เบียร์แต่ละชนิดมีสัมผัสที่แตกต่างกัน บางชนิดมีความนุ่มลิ้นและละเอียดอ่อน ในขณะที่บางชนิดให้ความรู้สึกหนักและเข้มข้น การสังเกตสัมผัสปากเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คุณรู้จักเบียร์มากขึ้น และทำให้คุณสามารถแยกแยะได้ว่าเบียร์ชนิดไหนที่เหมาะกับความชอบของคุณ
รับรสชาติหลังดื่ม (Aftertaste)
หลังจากที่คุณกลืนเบียร์แล้ว รสชาติที่เหลืออยู่ในปากหรือความรู้สึกหลังดื่มเป็นสิ่งที่บอกเล่าถึงคุณภาพของเบียร์ บางครั้งเบียร์ที่ดีจะทิ้งรสชาติที่มีความซับซ้อนและยาวนาน ซึ่งคุณสามารถใช้เวลาสักพักในการเพลิดเพลินกับมัน
การชิมเบียร์ไม่ใช่แค่การดื่มเพื่อความสนุกสนาน แต่ยังเป็นการสำรวจและทำความเข้าใจรสชาติที่แตกต่างกันไปในแต่ละชนิด การปฏิบัติตาม 5 วิธีการชิมเบียร์นี้จะช่วยให้คุณชื่นชมเบียร์มากยิ่งขึ้นและทำให้คุณเป็นนักชิมเบียร์มืออาชีพได้ในที่สุด
หากคุณต้องการรู้จัก ประวัติของเบียร์ไทย หรือสนใจใน พัฒนาการของเบียร์ในไทย คุณสามารถคลิกที่ลิงก์เพื่ออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้
FAQ
Q: วิธีการเลือกเบียร์ให้เหมาะกับอาหารไทยที่มีรสเผ็ดคืออะไร?
A: สำหรับอาหารไทยที่มีรสเผ็ด เช่น แกงเผ็ดหรือต้มยำ ควรเลือกเบียร์ที่มีรสชาติสดชื่นและกลมกล่อม เช่น เบียร์เอล (Ale) หรือ เบียร์ไพเล (Pale Ale) เบียร์เหล่านี้จะช่วยลดความเผ็ดร้อนและทำให้รสชาติของอาหารโดยรวมมีความสมดุลมากขึ้น นอกจากนี้ เบียร์ที่มีความมีกลิ่นผลไม้หวานยังช่วยเพิ่มความกลมกลืนกับรสชาติของอาหารได้ดีอีกด้วย
Q: อาหารไทยประเภทไหนที่เหมาะกับการจับคู่กับเบียร์ลาเกอร์?
A: เบียร์ลาเกอร์ (Lager) ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับอาหารไทยที่มีรสชาติแบบกลมกล่อมและไม่เผ็ด เช่น ข้าวผัดไทยหรือข้าวมันไก่ เนื่องจากเบียร์ลาเกอร์มีรสชาติที่เข้มข้นแต่ไม่มากนัก สามารถช่วยเพิ่มความสดชื่นและยกระดับประสบการณ์การทานอาหารให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงช่วยตัดรสมันจากอาหารได้ดีอีกด้วย
Q: จะเลือกเบียร์อะไรสำหรับอาหารขวัญใจคนไทยอย่างส้มตำ?
A: สำหรับอาหารส้มตำที่มีรสชาติเปรี้ยวเผ็ดและกรุบกรอบ แนะนำให้เลือกเบียร์ไวท์ (Witbier) หรือเบียร์เหลือง (Blonde Ale) ซึ่งทั้งสองชนิดมีรสชาติที่มีความสดชื่นและนุ่มนวล สามารถเข้ากันได้ดีกับรสชาติเปรี้ยวของมะละกอในส้มตำ เบียร์เหล่านี้ยังมีความเบาบางและกลิ่นหอมของเครื่องเทศที่ช่วยเสริมให้รสชาติอาหารเด่นชัดมากยิ่งขึ้น
